รายงานอุตสาหกรรมกาแฟนำเข้าจากจีน

กาแฟแบ่งตามรูปแบบการบริโภคออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ กาแฟสำเร็จรูปและกาแฟสด ปัจจุบัน กาแฟสำเร็จรูปและกาแฟสดมีสัดส่วนประมาณ 60% ของตลาดกาแฟในจีน และกาแฟสดมีสัดส่วนประมาณ 40% ของตลาดกาแฟในจีน ด้วยกระแสการแพร่หลายของวัฒนธรรมกาแฟและการพัฒนาระดับรายได้ของผู้คน ผู้คนจึงแสวงหาคุณภาพชีวิตที่ดีและให้ความสำคัญกับคุณภาพและรสชาติของกาแฟมากขึ้น ขนาดของตลาดกาแฟสดกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งเสริมการบริโภคเมล็ดกาแฟคุณภาพสูงและความต้องการนำเข้า
1. การผลิตเมล็ดกาแฟทั่วโลก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลผลิตเมล็ดกาแฟทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ว่าผลผลิตเมล็ดกาแฟทั่วโลกจะสูงถึง 10.891 ล้านตันในปี 2565 เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า องค์การกาแฟโลก (ICO) คาดการณ์ว่าผลผลิตกาแฟทั่วโลกในฤดูกาล 2565-2566 จะเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 168 ล้านกระสอบ หรือ 10.092 ล้านตัน และคาดการณ์ว่าผลผลิตกาแฟทั้งหมดในฤดูกาล 2566-2567 จะเพิ่มขึ้น 5.8% อยู่ที่ 178 ล้านกระสอบ หรือ 10.68 ล้านตัน
กาแฟเป็นพืชเขตร้อน และพื้นที่ปลูกทั่วโลกส่วนใหญ่กระจายอยู่ในละตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถิติขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่า พื้นที่ปลูกกาแฟทั่วโลกในปี พ.ศ. 2565 อยู่ที่ 12.239 ล้านเฮกตาร์ ลดลง 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พันธุ์กาแฟทั่วโลกสามารถแบ่งตามพฤกษศาสตร์ได้เป็นกาแฟอาราบิก้าและกาแฟโรบัสต้า เมล็ดกาแฟทั้งสองชนิดนี้มีรสชาติเฉพาะตัวและมักใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ในด้านการผลิต ในปี พ.ศ. 2565-2566 ผลผลิตกาแฟอาราบิก้าทั่วโลกจะอยู่ที่ 9.4 ล้านกระสอบ (ประมาณ 5.64 ล้านตัน) เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 56% ของผลผลิตกาแฟทั้งหมด ส่วนผลผลิตกาแฟโรบัสต้าทั้งหมดจะอยู่ที่ 7.42 ล้านกระสอบ (ประมาณ 4.45 ล้านตัน) ลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 44% ของผลผลิตกาแฟทั้งหมด
ในปี พ.ศ. 2565 จะมี 16 ประเทศที่มีผลผลิตเมล็ดกาแฟเกิน 100,000 ตัน คิดเป็น 91.9% ของผลผลิตกาแฟทั่วโลก ในกลุ่มนี้ มี 7 ประเทศในละตินอเมริกา (บราซิล โคลอมเบีย เปรู ฮอนดูรัส กัวเตมาลา เม็กซิโก และนิการากัว) คิดเป็น 47.14% ของผลผลิตกาแฟทั่วโลก 5 ประเทศในเอเชีย (เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ลาว และจีน) คิดเป็น 31.2% ของผลผลิตกาแฟทั่วโลก 4 ประเทศในแอฟริกา (เอธิโอเปีย ยูกันดา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และกินี) คิดเป็น 13.5% ของผลผลิตกาแฟทั่วโลก
2. การผลิตเมล็ดกาแฟของจีน
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2565 จีนจะมีผลผลิตเมล็ดกาแฟ 109,000 ตัน โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม 1.2% ใน 10 ปี คิดเป็น 1% ของผลผลิตกาแฟทั้งหมดทั่วโลก และอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก องค์การกาแฟโลก (ICO) ประมาณการว่าจีนมีพื้นที่ปลูกกาแฟมากกว่า 80,000 เฮกตาร์ และมีผลผลิตกาแฟมากกว่า 2.42 ล้านกระสอบต่อปี พื้นที่ผลิตหลักกระจุกตัวอยู่ในมณฑลยูนนาน คิดเป็นประมาณ 95% ของผลผลิตกาแฟทั้งหมดของจีนต่อปี ส่วนที่เหลืออีก 5% มาจากไหหลำ ฝูเจี้ยน และเสฉวน
ข้อมูลจากกรมเกษตรและพัฒนาชนบทแห่งมณฑลยูนนาน ระบุว่า ภายในปี 2565 พื้นที่ปลูกกาแฟในยูนนานจะสูงถึง 1.3 ล้านหมู่ และผลผลิตเมล็ดกาแฟจะอยู่ที่ประมาณ 110,000 ตัน ในปี 2564 มูลค่าผลผลิตของห่วงโซ่อุตสาหกรรมกาแฟทั้งหมดในยูนนานอยู่ที่ 31,670 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 1.7% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร 2,640 ล้านหยวน มูลค่าผลผลิตแปรรูป 17,360 ล้านหยวน และมูลค่าเพิ่มจากการค้าส่งและค้าปลีก 11,670 ล้านหยวน
3. การค้าระหว่างประเทศและการบริโภคเมล็ดกาแฟ
ตามการคาดการณ์ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ปริมาณการส่งออกเมล็ดกาแฟเขียวทั่วโลกในปี 2565 จะอยู่ที่ 7.821 ล้านตัน ลดลง 0.36% เมื่อเทียบเป็นรายปี และตามการคาดการณ์ขององค์การกาแฟโลก (WCO) ปริมาณการส่งออกเมล็ดกาแฟเขียวทั้งหมดในปี 2566 จะลดลงเหลือประมาณ 7.7 ล้านตัน
ในด้านการส่งออก บราซิลเป็นผู้ส่งออกเมล็ดกาแฟดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่าในปี 2565 ปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 2.132 ล้านตัน คิดเป็น 27.3% ของปริมาณการส่งออกทั่วโลก (ตามข้อมูลด้านล่าง) เวียดนามอยู่ในอันดับสองด้วยปริมาณการส่งออก 1.314 ล้านตัน คิดเป็น 16.8% โคลอมเบียอยู่ในอันดับสามด้วยปริมาณการส่งออก 630,000 ตัน คิดเป็น 8.1% ในปี 2565 จีนส่งออกเมล็ดกาแฟดิบ 45,000 ตัน อยู่ในอันดับที่ 22 ของประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ตามสถิติของกรมศุลกากรจีน จีนส่งออกเมล็ดกาแฟ 16,000 ตันในปี 2566 ลดลง 62.2% จากปี 2565 จีนส่งออกเมล็ดกาแฟ 23,000 ตันในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 133.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566